อย่าปล่อยผ่าน! สัญญาณไฟเตือนหน้าปัดรถ ต้องหยุดก่อนหรือไปต่อดี
โดย SIAM GS SALES
29 ธันวาคม 2564

ก่อนออกทริปสิ้นปีมาเช็กรถให้ชัวร์ พร้อมสังเกตหน้าปัดรถยนต์ให้ดี หากมีสัญญาณไฟแจ้งเตือน อย่าฝืนขับต่อ! มารู้จักความหมายสัญญาณไฟเตือนหน้าปัดรถเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่กัน

สัญญาณเตือนตามสีที่ควรรู้
▪ สัญญาณไฟสีเขียว ระบบเครื่องยนต์และอุปกรณ์กำลังทำงานอยู่ พร้อมใช้งาน สามารถขับต่อตามปกติได้เลย
▪ สัญญาณไฟสีเหลือง ระบบเครื่องยนต์และฟังก์ชันใช้งานได้อยู่ แต่ควรระมัดระวังและนำรถไปตรวจเช็กภายหลังการใช้งาน
▪ สัญญาณไฟสีแดง เป็นการแจ้งเตือนว่าระบบเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา ควรตรวจสอบความผิดปกติและหยุดใช้งานทันที

รวมสัญลักษณ์บนหน้าปัดรถยนต์ที่อย่ามองข้าม!
▪ สัญลักษณ์รูปกาน้ำ แจ้งเตือนระดับแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำหรือเกิดการรั่วที่ตัวเครื่องยนต์ ควรตรวจ
▪ เช็กอุณหภูมิรถและระดับน้ำมันเครื่องโดยเช็กจากก้านวัด จากนั้นควรเติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
▪ สัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์ หากไฟเตือนนี้กระพริบต่อเนื่องในระหว่างขับรถ แสดงว่าระบบเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา ควรรีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบความผิดปกติทันที
▪ สัญลักษณ์เครื่องหมายตกใจ แจ้งเตือนระบบเบรกมือหรือเบรกมือค้าง ควรรีบปลดเบรกมือออก หากปลดเบรกมือแล้วไฟยังแจ้งเตือนอยู่ น้ำมันเบรกอาจมีเหลือไม่พอ ควรเติมน้ำมันเบรกเพิ่มให้อยู่ในระดับที่พอดี
▪ สัญลักษณ์รูปปรอทวัดความร้อน แจ้งเตือนว่าความร้อนเครื่องยนต์สูงผิดปกติ ต้องจอดรถทันที แล้วดับเครื่องให้อุณหภูมิเย็นลง อาจเกิดจากพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน น้ำยาหล่อเย็นขาดหรือรั่ว ห้ามฝืนขับต่อเด็ดขาด เพราะเครื่องยนต์อาจเสียหายได้
▪ สัญลักษณ์รูป ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคกะทันหัน ควรขับอย่างระมัดระวังและไม่ควรขับด้วยความเร็วสูง ห้ามเบรกกะทันหันเด็ดขาด เพราะรถอาจลื่นจนเสียการทรงตัว ควรรีบนำรถตรวจเช็ก
▪ สัญลักษณ์รูปแบตเตอรี่ กำลังบอกว่ารถมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า แบตรถยนต์เสื่อมหรือใกล้หมด ควรตรวจเช็กระบบไดชาร์จ และเปลี่ยนแบตลูกใหม่ หากขับต่อไปรถอาจดับกลางทางได้

อย่าลืมเช็กรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง และหากเจอสัญญาณแจ้งเตือนรูปแบตเตอรี่โชว์ขึ้นมา ในกรณีฉุกเฉินรถดับ สตาร์ทไม่ติดระหว่างทาง รีบโทรหา GS Prompt กด 1380 ได้ทันที

บทความคล้ายกัน

ข่าวและกิจกรรม CSR ความรู้ดีๆ มากมายสไตล์ยีเอส แบตเตอรี่